เชียงใหม่ เจอตัวแล้วคนจีนขับเก๋งขวางรถพยาบาลอ้างไม่ได้ยินเสียง

ตำรวจสภ.หางดง เชียงใหม่ตามตัวเจอแล้วรถเก๋งสีขาวขับรถขวางรถพยาบาล ที่แท้เป็นหญิงชาวจีนอ้างไม่ได้ยินเสียง และไม่ได้เห็นสัญญาณไฟ ตำรวจเปียบเทียบปรับ 3 ข้อหาวันที่ 20 ธ.ค.61 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่สมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งชื่อว่า “Gino Phongphatthana” ได้โพสต์คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 32 วินาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รถยนต์เก๋ง วีออส สีขาวคันหนึ่งขับปิดทางเจ้าหน้าที่ขับรถพยาบาลขณะกำลังนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คนขับก็ได้มีการเปิดสัญญานไฟไซเรน และเสียงหว๋อ เพื่อขอทางแล้วแต่รถคันดังกล่าวยังคงขับไปตามทางโดยไม่สนใจ โดยความยาวของคลิปดังกล่าวหากเทียบระยะทางก็กินระยะทางหลายร้อยเมตร บนถนนสาย เชียงใหม่-หางดง ขณะที่หลังคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลไปแล้วนั้นก็มีผู้พบเห็นเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมากและได้มีการแชร์ต่อไปยังเพจต่างๆ อีกหลายเพจ พร้อมมีหลายคนตั้งข้อสงสัยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้นสำหรับความคืบหน้าล่าสุด หลังจากที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้นนั้น ในเวลาต่อมา ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการติดตามสืบหาเบาะแสของรถคันดังกล่าวที่ปรากฎภายในคลิปเนื่องจากได้บันทึกหมายเลขทะเบียนรถได้อย่างชัดเจน จนกระทั่งในที่สุดช่วงเย็นงานนี้ (19 ธ.ค.61) ก็สามารถติดตามตัวคนขับรถคันดังกล่าวได้ทันควัน โดยทางด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการเชิญตัวผู้ขับรถที่ปรากฎภายในคลิปมาสอบสวน ซึ่งทราบว่า คนขับนั้นเป็นหญิงสัญชาติจีน อายุประมาณ 36 ปี โดยจากการสอบสวนทางเจ้าตัวอ้างว่าในจอนเกิดเหตุได้ขับรถมาตามเส้นทาง และอ้างว่าระหว่างทีาขับมานั้นไม่ได้ยินเสียงสัญญาณขอทางของรถพยาบาล และไม่ทันได้สังเกตุแต่ย่างใดอย่างไรก็ตามในเบื้องต้นหลังการพูดคุยกับหญิงสาวคนดังกล่าวแล้วนั้น ทางรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการชี้แจงให้กับุ้กระทำผิดทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมทั้งได้มีการดำเนินการลงโทษด้วยการเปรียบเทียบปรับ รวม 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยไมชิดขอบทางด้านซ้าย มีโทษปรับตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท , ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร มีโทษปรับ ตั้งแต่ 400 – 1,000 บาท , เห็นรถฉุกเฉินแล้วไม่ให้รถฉุกเฉินผ่านก่อน มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท รวมเปรียบเทียบปรับข้อหาละ 400 บาท รวม 3 ข้อหา ถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงินทั้งสิ้น 1,200 บาท