
เปิดใจชาวบ้านในชุมชนเมืองย่านถนนพระปกเกล้าหลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการทดลองปิดถนนแบ่งล็อคขายของเหมือนถนนคนเดินแต่ปิดถนนในวันปกติจันทร์ และศุกร์ ล่าสุดเดินเรื่องร้องถึงศูนย์ดำรงค์ธรรม และศาลปกครองแล้ว รอขั้นตอนของศาลวอนจังหวัด เทศบาล และตำรวจเห็นใจทุกข์ชาวบ้านยืนยันจะคัดค้านถึงที่สุด
ความคืบหน้ากรณ๊ที่ชาวบ้านในชุมชนเมือง ในพื้นที่ของชุมชนสองฝั่งถนนพระปกเกล้าและโดยรอบที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักกับการทดลองปิดถนนพระปกเกล้าตั้งแต่แยกกลางเวียงจนถึงแยกของโรงเรียนพุทธิโศภณ ซึ่งเป็นระยะทางประมาณ 400 เมตร มีการทดลองปิดถนน 1 ช่องจราจรแบ่งพื้นที่ให้กลุ่มผู้ค้านำสินค้ามาตั้งแผงขายบนถนน ตั้งแต่เวลา 17-23.00 น.
ทางตัวแทนชาวบ้านในชุมชนที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเปิดใจกับทีมข่าวในส่วนของผลกระทบ และความคืบหน้าในการเคลื่อนไหวคัดค้านโดยสันติวิธี และเป็นไปตามขั้นตอนของกฏหมาย พร้อมกับให้ข้อมูลว่าช่วงแรกของการปิดถนนมีการทดลองในทุกวันจันทร์ และวันศุกร์ 2 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งจะครบ 2 เดือนในวันศุกร์นี้ และยังได้รับทราบข้อมูลมาว่ามีแนวคิดจะจัดให้ครบทั้ง 5 วันจันทร์ถึงศุกร์ด้วย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งเรื่องของการจราจร ซึ่งถนนพระปกเกล้าถือเป็นถนนกลางเมืองเชียงใหม่มีการจราจรที่คับคั่งอยู่แล้ว อีกทั้งการปิดถนนคนเดือนทุกๆวันอาทิตย์ก็ถือว่าการจราจรใจกลางเมืองได้รับผลกระทบหนักพอแล้ว แต่ถือว่าเป็นพื้นที่ท่องที่ยวของจังหวัดซึ่งชาวชุมชนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดกว่า 10 ปีที่จัดมา
แต่การเริ่มโครงการปิดถนนวันจันทร์-ศุกร์นี้ ส่งผลกระทบอย่างหนักกับคนในพื้นที่ที่ต้องมีทั้งบ้านพัก ธุรกิจการค้าขายสินค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก คลีนิครักษาผู้ป่วย ไปจนถึงโรงเรียน 2 แห่ง และวัดอีก 2 แห่ง ผลกรทบตามมาคือกุ่มผู้ค้า และคนจัดได้ผลประโยชน์ แต่ชาวบ้าน และผู้ประกอบการเจ้าของพื้นที่ในชุมชนดังกล่าวเองกลับได้รับผลกระทบกับการใช้ชีวิต และการทำมาค้าขายที่จะไม่สามารถให้บริการได้เลยหากมีการปิดถนนดังกล่าว และส่วนใหญ่ร้านอาหาร คลีนิค และโรงแรมต่างๆ ก็จะเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางดังกล่าวในการจราจรรับส่งสินค้า ลูกค้า และยังต้องใช้พื้นที่สำหรับจอดรถที่เวลาปกติก็แทบจะหาที่จอดยากอยู่แล้วยิ่งมาปิดถนนเชื่อว่าร้านค้า และโรงแรมที่พักก็จะไม่สามารถให้บริการได้เลย
สำหรับการเคลื่อนไหวคัดค้านตอนนี้ ทางชุมชนได้รวมตัวกันทำเอกสารคัดค้านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ผ่านทางศูนย์ดำรงค์ธรรม และมีการร้องต่อศาลปกครองให้เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหา และยกเลิกการจัดกิจกรรมดังกล่าวที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ตอนนี้อยู่ในช่วงพิจารณาของศาลปกครองชาวบ้านเองก็ยังรอคอยตามขั้นตอนของศาล
ขณะเดียวกันก็อยากร้องไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งในส่วนของจังหวัด เทศบาล และตำรวจภูธรภาค 5 ให้รับทราบปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และต้องฟังเสียงชาวบ้านในพื้นที่ด้วยว่าผลได้ผลเสียที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร และเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว ที่ผ่านมาเองทางเทศบาลก็ให้คำตอบว่าโครงการนี้เป็นการขอใชพื้นที่จราจร เป็นอำนาจและการจัดการของทางตำรวจจราจรเทศบาลไม่มีอำนาจไปคัดค้านหรือลกเลิกกิจกรรม ขณะที่ทางตำรวจเอง โดยพล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่าผู้ที่อนุมัติให้ปิดถนนคือส่วนของ สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ งานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้ลงนามอนุมัติ เริ่มโครงการทดลองตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562 แต่มีหนังสืออนุญาตมีการลงนามออกคำสั่งในวันที่ 4 กรกฎาคม 2562
พลตํารวจตรี พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า การปิดถนนเพื่อเปิดถนนคนเดิน เพื่อขายของวันจันทร์ กับ วันศุกร์ มีตัวแทน 13 ชุมชนมาขออนุญาตจริง และให้ทดลอง2 เดือน เผื่อศึกษาผลกระทบ แต่หลังจากมีกระแสคัดค้าน ล่าสุด ก็ได้เชิญ กลุ่มชาวบ้านทั้งสองฝ่ายมาคุย เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เนื่องจากจะครบกำหนดทดลองในวันศุกร์นี้
อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่ยังรอดูผลว่าเมื่อครบกำหนด 2 เดือนในการทดลองตามที่มีการขออนุญาตนั้นจะได้ผลสรุปเป็นอย่างไรซึ่งหวังว่าจะยกเลิกโครงการที่สร้างผลกระทบกับชาวบ้านนี้ลง แต่หากยังมีการเดินหน้าต่อก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวคัดค้านจนถึงที่สุด