
เปิดใจ!แม่และลูกสาว นร.วัย17 จูงมือกันขึ้นโรงพักแจ้งความให้ดำเนินคดีหนุ่มใหญ่ นามสกุลดัง ข้อหาพรากผู้เยาว์และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังถูกลูกสาวถูกข่มขู่และโพสต์ประจาน สอบถามจนได้ความว่าเด็กไปรู้จักกับคู่กรณีในสถานบันเทิงและโดนบังคับข่มขืนแล้วหลายครั้ง สุดทนพยายามตีตัวออกห่าง แต่กลับถูกคุกคาม
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าวันนี้(4พ.ย.62) นางเอ(นามสมมติ)อายุ42ปี พร้อมด้วยลูกสาวชื่อนางสาวเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแจ้งความ ดำเนินคดีกับหนุ่มใหญ่รายหนึ่ง ชื่อย่อนาย ช. ในข้อหาพรากผู้เยาว์และ ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ หลังจากที่นายช. ได้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าวโพสต์ภาพนางสาวเอ็มที่ถ่ายคู่กับตนเอง และบรรยายข้อความประจานให้ได้รับความอับอายเสียหาย โดยเฉพาะในเรื่องที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาวเอ็ม อายุ17ปี อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งความไว้ พร้อมส่งตัว นางสาวเอ็ม ไปตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และจะให้พนักงานสอบสวนหญิงทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะติดตามตัวนายช. ให้เข้าพบสอบปากคำต่อไป
ทั้งนี้นางเอ(นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า วานนี้(3พ.ย.62) ลูกสาวมีอาการหวาดกลัวจากการที่มีคนโทรศัพท์มาหาหลายครั้ง และลูกสาวไม่ได้รับสาย ประกอบกับพบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพและข้อความข่มขู่ประจานลูกสาวโดยพิมพ์ข้อความว่า “ผู้หญิงคนนี้ค้างบิลไว้ร้านไหนผมไม่ขอรับผิดชอบนะครับเพราะเราไม่เกี่ยวข้องกันอีกนะครับแล้วถ้าร้านไหนให้เข้าก็แล้วแต่ไม่ว่ากันเพราะเด็กไม่ถึง 17 หลอกไปนอนง่ายได้กินนิดหน่อยก็ได้ละง่าย ๆ อายุประถมประสบการณ์ปริญญา…เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันนะครับ” จึงได้สอบถามลูกสาวจนยอมรับว่าเมื่อหลายเดือนก่อนรู้จักกับนายชลัมกรณ์ ในสถานบันเทิงยามค่ำคืนแห่งหนึ่ง จากนั้นนาย ช. ได้จีบและไปไหนมาไหนด้วยกัน จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเชิงชู้สาว โดยที่พ่อแม่ไม่รู้เรื่องมาก่อน
โดยตลอดช่วงที่ผ่านมานายช. ได้แสดงความเป็นเจ้าของและหึงหวงลูกสาวมาตลอดทุกครั้งที่ไปเที่ยวกับเพื่อน รวมทั้งมักจะข่มขู่เพื่อนของลูกสาวทั้งผู้หญิงและผู้ชายด้วย ซึ่งลูกสาวพยายามตีตัวออกห่าง แต่ถูกข่มขู่คุกคามทุกครั้งจึงหวาดกลัวและยินยอมออกไปหานายช. อยู่เรื่อยมา กระทั่งล่าสุดลูกสาวทนไม่ไหวและตัดสินใจจะเลิกติดต่อกับนายช.อย่างเด็ดขาดแล้ว แต่ปรากฏว่ายิ่งถูกข่มขู่คุกคามหนักกว่าเดิม และมีการโพสต์ประจานดังกล่าว ซึ่งสร้างความอับอายและเสียหายให้กับลูกสาวและครอบครัวอย่างมาก โดยเฉพาะลูกสาวที่ไม่กล้าไปโรงเรียน และอาจจะต้องหยุดเรียนไปเลย ขณะที่เมื่อโทรศัพท์พูดคุยกับนายช. กลับปฏิเสธที่จะยอมรับผิดใดๆ และทางครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวด้วยเพราะคู่กรณีมีนามสกุลเหมือนกับบุคคลสำคัญระดับประเทศ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ส่วนนางสาวเอ็ม(นามสมมติ) อายุ17ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายช.เมื่อประมาณเดือน เม.ย.62 ระหว่างที่เข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยคนรู้จักแนะนำและบอกว่านายช. ชอบพอตัวเอง จากนั้นนายช. ได้ตามตื้อมาตลอดจนตัวเองยอมไปไหนมาไหนด้วย และพยายามที่จะขอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยหลายครั้ง แต่ตัวเองปฏิเสธและไม่ยินยอมมาตลอด อย่างไรก็ตามในที่สุดถูกนายช. บังคับมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยครั้งแรกประมาณเดือน พ.ค.62 และอีกหลายครั้งหลังจากนั้น โดยที่ตัวเองยินยอมเพราะความหวาดกลัว เนื่องจากมีคนบอกว่านายช. เป็นผู้มีอิทธิพลดูแลสถานบันเทิงหลายแห่งในตัวเมืองเชียงใหม่
นายสาวเอ็ม(นามสมมติ) บอกด้วยว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมานายชลัมกรณ์ จะแสดงความเป็นเจ้าของและหึงหวงตัวเองอยู่เสมอไม่ว่าตัวเองจะไปเที่ยวที่ไหนกับเพื่อนทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างถูกนายช. ข่มขู่ทั้งสิ้น เช่นเดียวกับตัวเองที่นายช. จะข่มขู่ต่างๆ นานาเช่นกันเพื่อให้ออกจากบ้านไปพบและบังคับมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ซึ่งตัวเองพยายามตีตัวออกห่างมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จเพราะถูกข่มขู่ทำให้หวาดกลัวว่าตัวเองและครอบครัวจะไม่ปลอดภัย กระทั่งล่าสุดประมาณสัปดาห์ที่แล้วได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่ไปพบกับนายช. อีกแล้ว ปรากฏว่าถูกนายช. ข่มขู่อย่างหนักและโทรศัพท์มาหาหลายครั้งแต่ตัวเองไม่รับ จากนั้นยังได้โพสต์ประจานตัวเองอีก ทำให้อับอายและเครียดมาก จนต้องยอมเปิดเผยความจริงให้พ่อแม่ทราบ และเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายช. อย่างไรก็ตามยอมรับว่ายังหวาดกลัวและไม่กล้าออกไปไหนมาไหน รวมทั้งไม่กล้าไปโรงเรียนด้วย