
ภรรยาลุงเจ้าของหอพักเหยื่อวัยรุ่นแก๊งทวงหนี้ เผยยังทำใจไม่ได้และคิดถึงสามีที่แต่งงานอยู่กินกันมา40ปีทุกวัน เหลือเพียงรูปถ่ายคู่ในมือถือไว้ดูต่างหน้า ขณะเดียวกันระบุยังคิดไม่ออกว่าจะบริหารจัดการหอพักที่เป็นหนี้เงินกู้เกือบ2ล้านบาทมาลงทุนอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ยอมรับหวาดผวาหวั่นกลุ่มผู้ก่อเหตุหวนมาข่มขู่ทำร้ายคนในบ้านรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าตลอดทั้งวันนี้(3 ต.ค.61) บรรยากาศงานศพของนายจรูญ อินต๊ะ อายุ 60 ปี เจ้าของหอพักที่เสียชีวิต จากการถูกกลุ่มวัยรุ่นแก๊งทวงหนี้รุมทำร้ายระหว่างเข้าไปช่วยระงับเหตุทะเลาะวิวาท เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 28 ก.ย.61 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 6 ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ มีเพื่อนบ้านและคนรู้จักแวะเวียนเข้าไหว้ศพ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจกับครอบครัวอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยคืนนี้จะมีการสวดบำเพ็ญกุศลศพเป็นคืนที่ 5 และจะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 6 ต.ค.61 นี้
นางศรีวรรณ สมบูรณ์ อายุ 58 ปี ภรรยาของนายจรูญ เปิดเผยว่า ขณะนี้แม้ว่าจะผ่านมาหลายวันแล้วแต่ตัวเองและทุกคนในบ้านทั้งแม่ของนายจรูญวัย 91 ปี และลูกชายยังทำใจยอมรับกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ได้ และจากนี้ไปยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร เพราะตลอดเวลาที่แต่งงานและอยู่กินกันมาประมาณ 40 ปี นายจรูญเป็นสามีและหัวหน้าครอบครัวที่ดีดูแลทุกคนในครอบครัวมาโดยตลอด ซึ่งทุกวันนี้ตัวเองคิดถึงนายจรูญอยู่เสมอ ทุกคืนนอนไม่หลับต้องกินยานอนหลับช่วย โดยมีเพียงรูปถ่ายคู่กันและรูปถ่ายกับลูกชายเพียงไม่กี่รูปเท่านั้นไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นรูปถ่ายคู่กันเมื่อครั้งไปทำบุญที่วัดที่ตัวเองตั้งไว้ให้เป็นรูปหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
สำหรับหอพักที่เกิดเหตุนั้น นางศรีวรรณ บอกว่า นายจรูญ กู้เงินจาก ธ.ก.ส.เกือบ 2 ล้านบาท มาสร้าง โดยนำที่ดินที่สร้างหอพักและบ้านเป็นหลักค้ำประกัน ด้วยความตั้งใจไว้ว่าจะได้เก็บค่าเช่าและหักต้นทุน เหลือเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัวและตัวเองในยามแก่เฒ่า แต่เพิ่งจะเปิดให้เช่าได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นก็มาเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียในครั้งนี้ขึ้นเสียก่อน ซึ่งยอมรับตามตรงว่าในเวลานี้ยังคิดไม่ออกว่าหลังจากนี้ไปจะทำอย่างไรต่อไปดีเพื่อดูแลบริหารจัดการหอพักและหนี้สินที่มีภาระอยู่ต้องผ่อนชำระเดือนละเป็นหมื่น จากการเก็บค่าเช่าหอพักที่มี 9 ห้อง และเก็บค่าเช่าเพียงห้องละ 1,100 บาท เท่านั้น
นอกจากนี้นางศรีวรรณ กล่าวถึงการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัววัยรุ่นที่ก่อเหตุได้จำนวนหนึ่งแล้วว่า อยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้ครบทุกคนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หากจับกุมได้ทั้งหมดแล้วอยากให้มีการนำมาแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ เพราะครอบครัวและญาติอยากจะรู้จากปากผู้ก่อเหตุว่าทำไมจึงได้ลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมอย่างนี้ แต่คงไม่ให้มาขอขมาศพเพราะสิ่งที่ทำไปเกินกว่าจะให้อภัยได้
โดยระหว่างนี้ที่ยังจับกุมตัวคนร้ายได้ไม่ครบ ยอมรับว่าตัวเองและทุกคนในครอบครัวรู้สึกหวาดผวาเป็นอย่างมากว่ากลุ่มคนร้ายจะหวนกลับมาข่มขู่ทำร้าย แม้แต่ผู้ที่เช่าหอพักอยู่ก็หวาดกลัวและย้ายออกไปเหลือเพียงห้องเดียว หรือหากจับกุมได้หมดก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่ดีว่าหากกลุ่มผู้ก่อเหตุพ้นโทษออกมาจะหวนกลับมาข่มขู่ทำร้ายหรือไม่ ซึ่งอยากจะร้องขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องนี้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น รายงานข่าวแจ้งว่าวันนี้(3 ต.ค.61) ที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายศักดิ์ชัย สุมาลี ,นายอารักษ์ เมตตา และนายอนิวัต รุจิวงค์ ที่ถูกจับกุมมาสอบสวน พร้อมของกลางมีดที่ใช้ในวันก่อเหตุรุมทำร้ายเจ้าของหอพักเสียชีวิตและนายแดง ชาวเมียนมาร์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสกะโหลกร้าวเลือดคั่งในสมอง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอำเภอสันทราย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเป็นบุคคลในภาพจากกล้องวงจรปิดจริงโดยวันเกิดเหตุตนพร้อมพวกได้นั่งดื่มสุราในงานวันเกิดนายสุพิฌาย์ วิทยาลัย หรือ นุ๊ก ขณะนั้นมีโทรศัพท์เข้ามาว่านายบรรจง โกสุโท หรือแบงค์ ถูกทำร้ายร่างกายจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามพรรคพวกไป เมื่อไปถึงตนได้เป็นคนกระโดดถีบประตู และงัดบานเกล็ดประตูหอพักจริง ส่วนมีดที่ถือวิ่งไปนั้นเป็นมีดของนายแดง ชาวเมียนมาร์ที่ตนเองแย่งมาได้
อย่างไรก็ตามยืนยันไม่ได้เป็นคนทำร้าย ทั้งนายแดง และนายจำรูญ ผู้เสียชีวิต ขณะที่นายอนิรุต รุจิวงค์ ให้การว่า นายอนิวัต ซึ่งเป็นน้องชายเป็นคนพาไป และขณะเกิดเหตุตนได้ถีบประตูห้อง แต่ไม่รู้ทำร้ายใครไปบ้างเนื่องจากอยู่ในช่วงชุลมุน เบื้องต้นตำรวจ ตั้งข้อร่วมกัน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ และ ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันบุกรุก เคหสถาน เวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์
ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายบุญญฤทธิ์ ศรีนุกุล หรือ โปร หัวหน้าแก๊ง เก็บเงินกู้สาย จังหวัดลำพูน ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.มะขาม จังหวัดจันทบุรี แล้วหลังถูกตำรวจออกหมายจับ โดยล่าสุดวันนี้ตำรวจออกหมายจับเพิ่ม 7 ราย มอบตัว 3 ราย ขาดอีก 4 ราย คือ นายดิเรก อินนวกุล อายุ หรือช้าง / นายแม็ก ไม่ทราบนามสกุล /นายวิชิต ไม่ทราบนามสกุล และนายเบนซ์ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป .