
หลังผ่านช่วงเลือกตั้งลงคะแนนจบแล้วแต่วิกฤติหมอกควันจากไฟป่า และการเผาของเชียงใหม่และภาคเหนือยังไม่จบ ยังคงวิกฤติหนักต่อเนื่งแม้จะมีกระแสลมเข้ามาบ้างบรรเทาความหนาแน่นแต่ยังกระทบหนักกับคนในพื้นที่
แม้ว่าในช่วงวานนี้จะมีกระแสลมพัดเข้ามาในตัวเมืองเชียงใหม่ ช่วยบรรเทาความหนาแน่นของหมอกควันที่สะสมในอากาศของเมืองเชียงใหม่ลงด้บ้างแต่ยังอยู่ในระดับวิกฤติมีแดงที่ส่งผลกระทบกับร่างกาย เช้านี้ก็ยังพบว่ามีหมอกควันหนาทึบปกคลุมทั่วเมืองเชียงใหม่ จากตัวเมืองเชียงใหม่เช้านี้ยังไม่เห็นดอยสุเทพที่ถูกบดบังด้วยหมอกควันสีขาว ในตัวเมืองประชาชนก็ยังต้องฝ่าวิกฤติออกมาทำงาน กัน แต่พบว่าการจราจรในตัวเมืองเชียงใหม่แม้จะเป็นช่วงเช้าเวลาประมาณ 8-9 นาฬิกาที่ปกติรถราจะหนาแน่น
แต่ช่วงที่เกิดวิกฤติหมอกควันพบว่าประชาชนหลีกเลี่ยงออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้งหรือนอกอาคารกันมากทำให้การจราจรบางตาลงไปอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน หลายโรงเรียนในตัวเมืองเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ยังเปิดการเรียนการสอน ช่วงซัมเมอร์ หรือมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ปิดภาคเรียนได้มีการประกาศหยุดเรียนในช่วงต้นสัปดาห์เพื่อลดผลกระทบจากหมอกควันที่อาจจะทำให้เด็กนักเรียนนักศึกษาล้มป่วยกันจึงต้องประกาศหยุดเรียนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์หมอกควันจะคลี่คลาย
จากข้อมูลของ เวปไซด์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเวปไซด์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า US AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 9 นาฬิกา ค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ลงมาอยู่อันดับ 2 ของโลก ดัชนีคุณภาพอาาศวัดได้ 246 US AQI ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมือง Dhaka , Bangladesh วัดได้ 372 US AQI
ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าเช้านี้เมื่อเวลา 9 นาฬิกาค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดได้ 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร