เหยื่อ “ดร.กำมะลอ”โผล่อีก เป็น 2 หนุ่ม พนง.ร้านอาหารเชียงใหม่ เข้าแจ้งความ ตร. รายแรกโดนหลอกยืมเงิน 7,000บาท ส่วนอีกรายให้เอารถยนต์ไปจำนำโอนเงิน20,000บาทเข้าบัญชี ก่อนเชิดหนีหน้าตาเฉย ยอมรับหลงเชื่อเพราะวางมาดน่าเชื่อถือเหมือนคนมีฐานะการงานดี ขณะที่พรุ่ง(24ต.ค.62)ผู้เสียหายจ่อแจ้งความอีก2ราย
จากกรณีนายชยรพ สังข์ช่วย อายุ49ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นดอกเตอร์และนักวิจัย ทำงานให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.62-12 ต.ค.62เป็นเวลา21วัน พร้อมทั้งสั่งอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งใช้บริการต่างๆ มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 48,225 บาท แล้วหายตัวออกจากโรงแรมไปโดยไม่ชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าว จนมีการเผยแพร่เรื่องราวในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก กระทั่งล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่าช่วงค่ำวานนี้( 22 ต.ค.62) ทางครอบครัวของนายชยรพ ได้ทำการโอนเงินจำนวน 49,000 บาท ให้กับทางโรงแรมเพื่อชำระค่าใช้จ่ายที่นายชยรพ ค้างไว้แล้ว
วันนี้(23 ต.ค.62) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าล่าสุดพบผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของนายชยรพ อีก 2 คน เป็นพนักงานร้านอาหารในตัวเมืองเชียงใหม่ คือ นายมน ลายทำ อายุ 21 ปี ชาวอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และนายพันธกิจ ป่าละ หรือ “จะแฮ” อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย โดยนายมน ถูกนายชยรพ หลอกให้นำรถยนต์เก๋งไปจำนำได้เงิน 20,000 บาท ส่วนนายพันธกิจ ถูกหลอกยืมเงินไปหลายพันบาท ซึ่งนายชยรพ ได้ก่อเหตุดังกล่าวในช่วงเดียวกับที่เข้าพักโรงแรมแล้วหายไปโดยไม่ชำระค่าใช้จ่ายเมื่อวันที่ 12 ต.ค.62 โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ต.ค.62 นายมน ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง แล้ว และวันนี้ได้พานายพันธกิจ ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งเข้าแจ้งความเพื่อให้ติดตามตัวนายชยรพ มารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้นายมน บอกว่า รู้จักกับนายชยรพ ผ่านนายพันธกิจ ที่เป็นเพื่อนและกลุ่มรุ่นพี่ที่เป็นนักแสดงตลก ซึ่งรู้จักนายชยรพ มาก่อน โดยนายชยรพ เป็นคนที่วางตัวดีน่าเชื่อถือและเหมือนคนมีฐานะการเงินดี เห็นจากการใช้จ่ายเงินเวลาไปเที่ยวดื่มกิน ทำให้ตัวเองไว้วางใจและเชื่อถือ รวมทั้งได้ไปกินไปเที่ยวด้วยตามคำชักชวนของนายชยรพ ซึ่งตลอดเวลานั้นไม่ทราบว่านายชยรพ ทำงานอะไรแน่ แต่จะพูดให้เข้าใจว่าเป็นอาจารย์ จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นเดือน ต.ค.62 นายชยรพ ได้เรียกให้ไปพบที่โรงแรมพร้อมบอกว่าเดือดร้อนมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วนและขอให้ตัวเองนำรถยนต์ไปจำนำ โดยจะไถ่คืนให้ภายใน2-3วันและจะจ่ายผลตอบแทนให้จำนวนหนึ่ง ด้วยความไว้วางใจและเชื่อถือ จึงหลงเชื่อนำรถยนต์ไปจำนำกับรุ่นพี่ได้เงิน 20,000 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารของนายชยรพ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.62
อย่างไรก็ตามปรากฏว่าพอถึงวันนัดไถ่ถอนคืนในวันที่ 8 ต.ค.62 นายชยรพ กลับบ่ายเบี่ยงและไม่ยังไม่นำเงินมาคืนให้ โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา แต่ตัวเองยังวางใจอยู่เพราะว่าในช่วงนั้นนายพันธกิจ ที่เป็นเพื่อนกันยังคงอยู่กับนายชยรพตลอด เพื่อรอทวงเงินที่ถูกนายชยรพ ยืมไป จนกระทั่งวันที่ 12 ต.ค.62 ทราบว่านายชยรพ ได้ไปส่งนายพันธกิจ ขึ้นรถโดยสารกลับบ้านที่จังหวัดเชียงราย และนายชยรพ ได้หายตัวไปโดยไม่จ่ายค่าโรงแรมหลายหมื่นบาทด้วย จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ซึ่งเวลานี้เดือดร้อนและกังวลใจอย่างมากว่ารถยนต์จะถูกยึด เพราะซื้อมาในราคา 60,000 บาทและเพิ่งจะผ่อนหมดด้วยน้ำพักน้ำแรง ดังนั้นอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวนายชยรพ มารับผิดชอบโดยเร็วที่สุด
ขณะที่นายพันธกิจ เปิดเผยว่า นายชยรพ เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการร้านอาหารที่ตัวเองทำงานอยู่ และรุ่นพี่ที่เป็นนักแสดงตลกในร้านได้แนะนำให้รู้จักเมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งด้วยท่าทางที่น่าเชื่อถือและใช้จ่ายเหมือนคนมีฐานะดีทำให้ตัวเองไว้วางใจ โดยครั้งแรกหลังจากรู้จักกันได้ช่วงหนึ่งนายชยรพ ได้ขอยืม 4,000 บาท และบอกว่าจะคืนให้ 6,000 บาท ด้วยความเชื่อถือตัวเองจึงให้ยืมไป แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น นายชยรพ ได้เดินทางกลับไปและบอกว่าจะคืนให้ภายหลังที่กลับมาเชียงใหม่อีกครั้ง จนกระทั่งล่าสุดที่นายชยรพ มาเชียงใหม่และเรียกให้ตัวเองไปพบ จึงเข้าใจว่าคืนเงินให้ แต่กลับกลายเป็นว่าได้ขอยืมเงินอีก 3,000 บาท และตัวเองก็ให้ยืมด้วยความหวังว่าจะได้คืนพร้อมกับเงินก้อนแรก
จากนั้นด้วยความที่อยากจะได้เงินคืนจึงเฝ้าติดตามอยู่กับนายชยรพ ตลอด จนสุดท้ายต้องออกจากงานที่ทำ แต่ทว่านายชยรพ ไม่มีท่าทีว่าจะคืนเงินให้และบ่ายเบี่ยงอ้างเหตุผลต่างๆ นานาว่ากำลังจะได้รับเงินก้อนใหญ่แล้วและจะคืนให้ จนกระทั่งวันที่ 12 ต.ค.62 ตัวเองไม่มีเงินเหลือติดตัวแล้วและอยากกลับบ้านที่จังหวัดเชียงราย นายชยรพ จึงบอกว่าจะไปส่งขึ้นรถโดยสารและจะให้เงินก่อน 1,000 บาท แต่หลังจากที่ไปส่งและซื้อตั๋วรถให้แล้ว นายชยรพ ได้หายตัวไปเลย และไม่สามารถติดต่อได้ จนมาทราบว่านายชยรพเบี้ยวจ่ายเงินค่าโรงแรมด้วย จึงมั่นใจว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ซึ่งตัวเองได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเพราะเงินจำนวนดังกล่าวนั้นถือว่ามีจำนวนมากสำหรับตัวเองที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัวที่มีลูก2คน จึงอยากให้นายชยรพ นำมาคืนให้
รายงานข่าวแจ้งว่าในวันพรุ่งนี้(24 ต.ค.62) มีผู้เสียหายอีก 2 คน เป็นหญิงสาวที่ถูกนายชยรพ หลอกเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจเพิ่มเติมอีก