สาว ผจก.โรงแรมเชียงใหม่ แฉละเอียดยิบพฤติกรรม “ด็อกเตอร์กำมะลอ” วางมาดอย่างดีอ้างเป็นนักวิจัยกระทรวงมหาดไทย เข้าพักห้องหรูอยู่ดีกินดี 21วัน แถมชวนเพื่อนสังสรรค์เกือบทุกวัน ยอดค่าใช้จ่ายเฉียด 5 หมื่นบาท ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ พบประวัติโชกโชนเคยเช่ารถยนต์แล้วเชิดไปจำนำด้วย
รายงานจาก จังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ขณะนี้โซเชียลมีเดียมีการโพสต์เผยแพร่และแชร์เรื่องราวเตือนภัยกรณีที่ผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ นายชยรพ สังข์ช่วย อายุ 49 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช อ้างตัวว่าเป็นด็อกเตอร์เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งกินอยู่อย่างเต็มที่รวม 21 คืน และมีการชักชวนกลุ่มเพื่อนมาสังสรรค์ด้วย จนมียอดค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นกว่า 4.8 หมื่นบาท แต่เมื่อถึงเวลาเช็คเอาท์ผู้ชายคนดังกล่าวกลับหายหน้าไป ไม่ยอมชำระค่าใช้จ่ายที่คงค้างไว้ จนพนักงานของโรงแรมดังกล่าวต้องนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์ เปิดเผยในโซเชียลมีเดีย เพื่อขอให้ผู้ชายคนดังกล่าวกลับมาชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าวกับทางโรงแรม รวมทั้งขอให้ผู้ที่อาจจะมีข้อมูลช่วยแจ้งเบาะแสและเป็นการเตือนภัยด้วย
จากการตรวจสอบทราบว่าโรงแรมที่ได้รับความเสียหายดังกล่าว ตั้งอยู่ย่านสันผีเสื้อ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งนางสาวแพร ศรีฉัตราภิมุข อายุ35ปี ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว เปิดเผยว่า นายชยรพ เป็นลูกค้า ที่เคยมาพักที่โรงแรมแล้วก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง และครั้งนี้ที่เกิดความเสียหายเป็นการเข้าพักครั้งที่ 3 โดยครั้งแรก จองห้องผ่านเว็บไซต์จองที่พักโรงแรม ส่วนครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 เข้ามาติดต่อห้องพักด้วยตัวเอง ซึ่งในการเข้าพักครั้งที่ 3 ที่เป็นครั้งล่าสุดนั้น ได้เริ่มเข้าพักเมื่อวันที่ 21ก.ย.62 โดยตลอดช่วงที่เข้าพักนั้นนายชยรพ ที่อ้างตัวว่าเป็นด็อกเตอร์ทำงานนักวิจัย ได้มีการพาเพื่อนที่เป็นนักแสดงตลกในภาคเหนือและว่าจ้างสาวๆ มาสังสรรค์ที่โรงแรมเกือบทุกวัน พร้อมทั้งได้สั่งอาหารและเครื่องดื่มจากทางโรงแรมด้วย ซึ่งนายชยรพ แจ้งว่าจะชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเมื่อเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
กระทั่งต่อมาในวันที่ 12 ต.ค.62 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่พบตัวนายชยรพที่โรงแรมนั้น นายชยรพ ได้มีสอบถามรายละเอียดและยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากทางพนักงานของโรงแรม โดยบอกว่าจะพักอีก 1 คืน และวันรุ่งขึ้นจะเช็คเอ้าท์พร้อมชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารของโรงแรม และขอให้ออกใบเสร็จรับเงินในนาม “ดร.ชยรพ สังข์ช่วย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย” ซึ่งครั้งแรกพนักงานพิมพ์ในใบสรุปยอดค่าใช้จ่ายว่า “นายชยรพ” เท่านั้น แต่นายชยรพ ได้ให้แก้เป็น “ดร.ชยรพ” ก่อนที่จะออกจากโรงแรมไป ซึ่งเมื่อถึงเวลาเช็คเอ้าท์ทางโรงแรมได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อสอบถามนายชยรพ ได้รับคำตอบแต่เพียงว่าจะกลับไปชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่มียอดรวมทั้งสิ้น 48,225 บาท ให้ภายหลังก่อนที่จะขาดการติดต่อไปและไม่กลับมาที่โรงแรมอีกเลย โดยที่ยังทิ้งกระเป๋าเดินทางและของใช้ส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆไว้ในห้องพักด้วย
ทั้งนี้ผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนและเสียหายให้กับทางโรงแรมมากพอสมควร เพราะเป็นยอดเงินที่ค่อนข้างสูงและตลอดช่วงที่นายชยรพ เข้าพักอยู่นั้น ทางโรงแรมได้ให้บริการในฐานะลูกค้าเป็นอย่างดีทุกประการ ซึ่งหลังจากที่ได้พยายามทำทุกทางเพื่อติดต่อให้นายชยรพ มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว รวมทั้งทวงถามผ่านทางกลุ่มเพื่อนที่นายชยรพ พามาร่วมสังสรรค์ด้วยที่โรงแรม แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้เลยและไม่มีท่าทีว่านายชยรพ จะมาชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 ต.ค.62 จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับนายชยรพ แล้ว ซึ่งเป็นทางเลือกที่ทางโรงแรมไม่อยากดำเนินการ แต่มีความจำเป็นจริงๆ เพราะหากเป็นไปได้อยากให้นายชยรพ มาติดต่อชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะดีกว่า โดยการดำเนินการต่างๆ หลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ โดยยอมรับว่ากรณีที่เกิดขึ้นนี้ทางโรงแรมอาจจะไม่รอบคอบเท่าที่ควรและอยากให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ ได้ระมัดระวังเพื่อจะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นเดียวกันนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบถามแหล่งข่าวที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่นายชยรพ พาไปสังสรรค์ที่โรงแรมด้วยตลอดช่วง 21 วันที่เข้าพักในโรงแรมที่เป็นผู้เสียหายนั้น ระบุว่า นายชยรพ มีชื่อเล่นว่า “เล็ก” ไม่ได้เป็นด็อกเตอร์ หรือเป็นนักวิจัยแต่อย่างใดทั้งสิ้น และไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับส่วนราชการใดๆ ด้วย แต่เป็นคนที่มีพฤติกรรมชอบคุยโม้โอ้อวด และหลอกลวงไม่ต่างจากนักต้มตุ๋น โดยมักจะวางมาดดีอ้างว่าเป็นคนมีฐานะหน้าที่การงานดีและน่าเชื่อถือ ซึ่งกรณีที่โรงแรมดังกล่าวได้รับความเสียหายลักษณะดังกล่าวนายชยรพ เคยทำมาหลายครั้งแล้ว รวมทั้งยังเคยมีกรณีเช่ารถยนต์แล้วนำไปจำนำด้วย ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องก็จะหลบหนีไปกบดานและไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จนกระทั่งเรื่องเงียบไปก็จะกลับมาก่อเหตุอีก