
แม่ทัพภาคที่ 3 นำแถลงผลงานกองกำลังผาเมือง ลาดตระเวนสกัดกั้นคาราวานลำเลียงยาเสพติดชายแดนด้านอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ยึดของกลางยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 2.8 ล้านเม็ด มูลค่าต้นทาง 60 ล้านบาท สัญลักษณ์ใหม่ “อินทรีย์เหยียบแอปเปิ้ล” พบเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ในรอบ10ปีในช่องทางนี้ เนื่องจากช่วงหลังขบวนการหันไปใช้ช่องทางอื่น เผยยังมียาบ้าจ่อทะลักชายแดนอีกกว่า 30 ล้านเม็ด เหตุชนกลุ่มน้อยเร่งระบายสินค้าหาเงินซื้ออาวุธต่อสู้รัฐบาลเมียนมาร์ที่เข้าปราบปราม
วันนี้(10 มี.ค.61)ที่กองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลโทวิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วยพลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง รวมทั้งผู้แทนจากตำรวจภูธรภาค 5 ,สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จำนวน 2,840,000 เม็ด ภายหลังจากที่เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.61) กองร้อยทหารม้าที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีขบวนการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ช่องทางหนองกะลาง บ้านอรุโณทัย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยได้จัดชุดลาดตระเวนฯ เข้าปฏิบัติในพื้นที่ตามข่าวสารดังกล่าว ตรวจพบชายต้องสงสัย 2 คน จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นแต่ผู้ต้องสงสัยได้ทิ้งเป้ และวิ่งหลบหนีไปได้จำนวน 1 คนติดตามจับกุมได้ 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายหลาว บุญไต ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 9/ช บ้านห้วยเป้า หมู่ 1 ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบเป้จำนวน 4 เป้ ภายในบรรจุยาบ้า และได้ทำการขยายผลตรวจพื้นที่โดยรอบพบเป้อีกจำนวน 15 เป้ รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 19 เป้ มียาบ้าจำนวน 2,840,000 เม็ด ทั้งนี้คาดว่าทั้งสองคนนี้เป็นผู้ดูต้นทาง โดยที่กลุ่มขบวนการทั้งหมดน่าจะมีประมาณ 20 คน จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินการต่อไป
โดยการจับกุมและตรวจยึดยาบ้าในครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่มีการเข้มงวด ในการกวดขันทำให้ขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางในการเดินทาง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการเลี่ยงไปใช้เส้นทางแนวชายแดนตอนบน เช่น แม่อาย , ฝาง ของจังหวัดเชียงใหม่ หรือทางชายแดนฝั่งของจังหวัดเชียงราย นอกจากนี้จำนวนยาบ้าที่ตรวจยึดนั้น ตัวยาถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษสีขาว ข้างนอกห่อด้วยกระดาษสีเหลือง มีสัญลักษณ์ 3 แบบคือ อินทรีย์เหยียบรูปแอปเปิ้ล จำนวน 2,150,000 เม็ด , 999 จำนวน 500,000 เม็ด และ Y1 จำนวน 190,000 เม็ด ตัวเม็ดยาประทับตราอักษร WY ซึ่งผลสัมฤทธิ์ของการจับกุมครั้งนี้ เป็นความสำเร็จจากงานด้านการข่าวของหน่วยที่ได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่
สำหรับผลการจับกุมยาเสพติด ที่สำคัญในพื้นที่ชายแดนช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ถึงกุมภาพันธ์ 2561 ฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้จำนวน 5,788,128 เม็ด จากยอดจับกุมทั้งหมดจำนวน 8,732,100 เม็ด โดยเมื่อรวมการตรวจยึดในครั้งนี้ ทำยอดรวมที่ฝ่ายทหารสามารถจับกุมได้มีจำนวนทั้งสิ้น 8,628,128 เม็ด จากการจับกุมทั้งหมด จำนวน 11,572,100 เม็ด
ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ในช่วงนี้สามารถสกัดกั้นตรวจยึดยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าที่ลักลอบลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทยได้เป็นจำนวนมากนั้น เนื่องมาจากทางประเทศเมียนร์มาได้ทำการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยที่ยังไม่ยอมวางอาวุธ ทำให้ชนกลุ่มน้อยดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติด ต้องเร่งทำการส่งยาเสพติดที่ผลิตไว้ออกขายเพื่อระดมเงินนำไปจัดหาอาวุธเพื่อใช้ในการสู้กับรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการประสานจากทางประเทศเมียนมาร์ให้ช่วยเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังอยู่แล้วทั้งในเรื่องยาเสพติดและอาวุธ โดยยาบ้าที่สามารถทำการตรวจยึดได้ในครั้งนี้กว่า 2.8 ล้านเม็ดนั้น เบื้องต้นที่ชายแดนมีมูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวหากเข้าไปถึงพื้นที่ชั้นในของประเทศ นอกจากนี้มีข้อมูลด้วยว่ายังมียาบ้าที่นำมาพักรอที่จะทะลักเข้ามาตาแนวชายแดนอีกว่า 30 ล้านเม็ด ส่วนตราสัญลักษณ์ที่พบมีการติดอยู่ที่ของกลางที่ตรวจยึดในครั้งนี้ 3 สัญลักษณ์นั้น แตกต่างจากปกติที่มักจะพบเพียงสัญลักษณ์เดียว โดยสัญลักษณ์อินทรีย์เหยียบรูปแอปเปิ้ลเพิ่งพบใหม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าทั้ง 3 สัญลักษณ์มีความแตกต่างกันอย่างไร และเป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่