
หนุ่มสิงคโปร์ หึงโหดภรรยาสาวสวยหลังให้ไปส่งลูกที่โรงเรียน แต่โทรหาเมียไม่รับสายแอบขี่จักรยานยนต์ตามหาด้วยจีพีเอส พบมาจอดรถใกล้ห้างสรรพสินค้าตรงเข้าไปมีปากเสียงชกต่อยเมียก่อนที่จะใช้เคียวเกี่ยวข้าวที่ตามมาฟันที่หลังและขาได้รับบาดเจ็บชาวบ้านช่วยกันห้ามและนำตัวส่งโรงพยาบาล
เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 3 กันยายน 2562 ร.ต.ท.หญิง ธัญชนก พรหมราช รอง สว.(สอบสวน ) สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุ ทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดบริเวณริมถนนภายในโครงการบิสิเนสปาร์ค หลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า ถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เลยมาจากนาทีจะไปถึงพบกับนายอัลเบิร์ต ซิง อายุ 38 ปี สัญชาติสิงคโปร์ อยู่บ้านเลขที่168/90 หมู่ 1 ตำบล สันพระเนตร อำเภอ สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้ยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ พร้อมด้วยของกลางเป็นอาวุธเคียวเกี่ยวข้าว 1 อัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมาคือนางสาวปาริชาติ ปันเรืองกิจ อายุ 29 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่168/90 หมู่ 1 ตำบล สันพระเนตร อำเภอ สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกเคียวฟันเข้าที่บริเวณขาขวาและหลัง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ปฐมพยาบาลและนำส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลแมคคอร์มิค
โดยจากการสอบสวนทางด้านนายอัลเบิร์ต ได้ให้การว่า ตนได้อยู่กินกับผู้บาดเจ็บในลักษณะสามีภรรยามาแล้วนานกว่า 6 ปี หนูไม่ได้มีลูกด้วยกัน 2 คนอายุ 4 ขวบและ 5 ขวบ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองเคยทะเลาะกันเรื่องมาแล้วหลายครั้ง นางจากผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนหน้าตาดี โดยก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าตนไม่สบายและได้ให้ภรรยานำลูกไปส่งที่โรงเรียน โดยใช้เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ตนได้พยายามโทรหาภรรยาแต่ก็ไม่รับสาย จึงได้ติดตามจาก gps ก็พบว่า รถยนต์ของภรรยาได้มาจอดที่บริเวณดังกล่าว ต้นจึงขับรถจักรยานยนต์ตามมาด้วยความหึงหวง และได้มีการทะเลาะวิวาทกัน ตนได้บันดาลโทสะจึงชกต่อยภรรยา ก่อนจะนำเคียวที่พกมาด้วย ฟันเข้าที่บริเวณขาด้านขวาและกลางหลัง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งภายหลังได้มีประชาชนเข้ามาห้ามปราม ต้นจึงได้โทรเรียกรถพยาบาลให้มารับภรรยาของตนเองไปรักษาต่อยังโรงพยาบาล
ทั้งนี้ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ คาดว่าสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากการหึงหวง โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าว เอาไว้เป็นหลักฐาน โดยหลังจากที่ผู้ได้รับบาดเจ็บหายดีแล้วจะเรียกตัวมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป