ช่วงบ่ายวันนี้(26 มี.ค.61) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนภาคพลเมืองเชียงใหม่ที่รวมตัวกันเป็นภาคีเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ประกอบด้วยเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ภาคีคนฮักเชียงใหม่,เครือข่ายเขียวสวยหอม,ชมรมจักรยานวันอาทิตย์ ,โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา และกลุ่มรักษ์แม่ปิง เป็นต้น เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 งบประมาณโครงการหลายร้อยล้านบาท ที่ตั้งอยู่บนแนวลาดชันของภูเขาและลักษณะพื้นที่ดูคล้ายยื่นเข้าไปในพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยศาสตราจารย์เฉลิมพล แซมเพชร ประธานภาคีคนฮักเชียงใหม่ และนายชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานกรรมการโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และอธิบดีกรมธนารักษ์ โดยนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ว่าที่ร้อยตรียงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ เป็นตัวแทนรับหนังสือและเจรจา8469d4af8b30bc886c04c2119de39568.jpg

ทั้งนี้ในส่วนของหนังสือที่ยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นการขอข้อมูลข่าวสารราชการและให้ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างดังกล่าว เช่น การขออนุมัติใช้พื้นที่ราชพัสดุ,การพิจารณาโครงการ,การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยในเชิงวิศวกรรม เป็นต้น ส่วนหนังสือที่ยื่นถึงกรมธนารักษ์ จะเป็นการขอให้ปรับปรุงระเบียบการใช้พื้นที่ราชพัสดุและการแก้ไขปัญหาทัศนอุจาดของดอยสุเทพ โดยขอไม่ให้มีการอนุญาตใช้ที่ดินราชพัสดุที่อยู่ติดกับพื้นที่ป่าอนุรักษ์รวมทั้งมีศักยภาพให้เป็นพื้นที่สีเขียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการนี้ ให้กรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของที่ดินพิจารณาเพิกถอนการอนุญาตและปรับปรุงให้เป็นสภาพป่าเชิงเขาเช่นเดิม

ศาสตราจารย์เฉลิมพล แซมเพชร ประธานภาคีคนฮักเชียงใหม่ ระบุว่า การเข้ายื่นหนังสือในครั้งนี้ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และอธิบดีกรมธนารักษ์ เพื่อขอข้อมูลข่าวสารรายละเอียดโครงการและการใช้พื้นที่ดังกล่าว ตลอดจนขอให้กรมธนารักษ์ทบทวนการอนุญาตให้ใช้ที่ดินราชพัสดุให้เหมาะสม และหากเป็นไปได้อยากให้ยุติการใช้พื้นที่ในส่วนที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ยืนยันว่าภาคประชาชนไม่ต่อต้านคัดค้านการก่อสร้างตามโครงการนี้ในส่วนของอาคารที่ทำการและอาคารที่พักที่ตั้งอยู่ส่วนที่เป็นพื้นที่ราบ เพียงแต่เห็นว่าการก่อสร้างในส่วนของบ้านพักที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ลาดชันและยื่นเข้าไปในพื้นที่ป่าดอยสุเทพนั้น ไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง แม้ว่าโครงการดังกล่าวจะมีการขออนุญาตใช้พื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม0a80ef888604f7f7ecc0c1541df8d575.jpg

ประธานภาคีคนฮักเชียงใหม่ ย้ำว่า พื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพดังกล่าวนี้ถือว่ามีความอ่อนไหวทางระบบนิเวศน์และหากได้รับความเสียหายแล้วย่อมยากที่จะปรับปรุงแก้ไขให้กลับมาดีดังเดิม ซึ่งหากเป็นไปได้อยากวิงวอนให้มีการพิจารณายุติและยกเลิกโครงการส่วนนี้ แล้วย้ายไปก่อสร้างในพื้นที่อื่นที่มีความเหมาะสมแทน เพราะเชื่อว่ายังมีที่ราชพัสดุอีกมากที่มีความเหมาะสมมากกว่าโดยไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่แห่งนี้ ซึ่งการยุติและยกเลิกโครงการที่ก่อสร้างไปแล้ว อาจจะดูเหมือนทำให้งบประมาณที่ลงไปสูญเปล่า แต่หากสามารถรักษาพื้นที่ที่มีคุณค่าของเมืองเชียงใหม่และคนเชียงใหม่เอาไว้ได้ถือว่าคุ้มค่าและมีค่ามากกว่างบประมาณที่เสียไป อีกทั้งยังจะเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ให้หน่วยงานอื่นดำเนินการตามอีกและไม่เป็นตราบาปตลอดไปด้วยff16e7511950be86c48631cd805aeed8.jpg

ขณะที่ว่าที่ร้อยตรียงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นรับหนังสือจากทางเครือข่ายภาคประชาชนไว้ จากนี้จะนำเข้าไปสู่การพิจารณาของหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วจะมีการแจ้งผลให้ทราบในลำดับต่อไป ส่วนข้อเรียกร้องที่ขอให้ยุติหรือยกเลิกโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 นั้น ยอมรับว่าเพิ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเรียกร้องลักษณะนี้ที่ให้ยกเลิกหรือยุติโครงการก่อสร้างในพื้นที่ราชพัสดุ เพราะตามปกติเมื่อส่วนราชการครอบครองใช้ประโยชน์พื้นที่ราชพัสดุแล้ว เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องไปดำเนินการก่อสร้าง และปฏิบัติตามข้อกฎหมายต่างๆเอง ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ทางกรมธนารักษ์ จึงจะทำการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อเรียกร้องในครั้งนี้จะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง9280e9f41bf6bdba976e64f42be15a52.jpg

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากการเคลื่อนไหวด้วยการยื่นหนังสือในวันนี้แล้ว ช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้(27 มี.ค.61) ตัวแทนภาคีเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จะเดินทางไปที่มณฑลทหารบกที่ 33 (ค่ายกาวิละ) จังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบพลตรีสาธิต ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เพื่อเพื่อหารือและขอให้เป็นตัวกลางในเจรจากับทางเจ้าของโครงการเกี่ยวการยุติและยกเลิกโครงการส่วนนี้ แล้วย้ายไปก่อสร้างในพื้นที่อื่นที่มีความเหมาะสมแทน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามที่ผู้บัญชาการทหารบกบอกว่าโครงการนี้ต้องฟังเสียงประชาชน.