เชียงใหม่ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองและหมอกควันจากไฟป่าพุ่งสูงมาอยู่ที่อันดับ 5 ของโลกแล้ว ขณะที่ตัวเมืองเชียงใหม่เช้านี้ หมอกควันสีขาวหนาทึบจนบดบังดอยสุเทพดัชนีคุณภาพอากาศทางภูมิศาสตร์ ไม่สามารถมองเห็นได้จากตัวเมืองค่า PM2.5 พุ่งสูงต่อเนื่อง
สถานการณ์หมอกควันจากไฟป่า และการเผาของจังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่ช่วงวิกฤติแล้ว หลังจากคืนที่ผ่านมามีหมอกควันจากไฟป่า และการเผาลอยมาสะสมตัวในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ ทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดเช้านี้พบว่าจากเวปไซด์ iqair.com ที่รวมรวมสถิติของค่ามลพิษในอากาศจากทั่วโลกรายงานเมื่อเวลา 9 นาฬิกาว่าจังหวัดเชียงใหม่พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 ของโลก เมืองที่มีค่ามลพิษในอากาศสูง ดัชนีคุณภาพอากาศของเมืองเชียงใหม่อยู่ที่ 179 AQI ส่วนอันดับ 1 เป็นของ เมืองวรอตสวัฟ ประเทศโปแลนด์
ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่าในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 9 นาฬิกา ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง 86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ดอยสุเทพ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ รพ.เทพรัตนฯ อ.แม่แจ่ม 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทำให้เช้านี้บรรยากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ถูกหมอกควัหนาทึบเข้าปกคลุม ประชาชนเริ่มได้รับผลกระทบรู้สึกได้ถึงอาการแสบตา แสบคอ และแสบจมูก ส่วนดัชนีวัดคุณภาพอากาศทางภูมิศาสตร์ของตัวเมืองเชียงใหม่ อย่างดอยสุเทพที่อยู่ทางด้านตะวันตกของตัวเมืองเช้านี้ถูกหมอกควันหนาทึบบดบังจนไม่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งส่งสัญญาณว่าตอนนี้เชียงใหม่เข้าสู่ช่วงวิกฤติของหมอกควัน และไฟป่าแล้ว
ประชาชนที่ต้องออกมาทำกิจกรรมนอกอาคารต้องสวมเสื้อผ้ามิดชิดสวมหน้ากากอนามัยที่กรองฝุ่น PM2.5 ได้ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน กลุ่มเสี่ยงเด็กเล็กคนชรา และผู้ป่วยโรงทางเดินหายใจเรื้อรังต้องดูแลเป็นพิเศษในระยะนี้