เพจเฟสบุคของกลุ่ม watchdog thailand โพสต์รูปภาพที่ได้มาจากกลุ่มลับของพรานนักล่าโพสต์อวดกัน ซึ่งเป็นภาพของชายหนุ่มถือปืนยาวหิ้วซากแมวดาวที่ถูกล่า และภาพถลกหนังตากแดด รวมทั้งภาพงูตัวยาวกว่า 2 เมตรที่ถูกล่า โดยอ้างกว่าเป็นภาพในค่ายหหารแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่
โดยเพจเฟสบุคชื่อว่า watchdog thailand ซึ่งเป็นเพจของกลุ่มที่ดูแลช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง ทั้งสุขนัข และแมว รวมไปถึงติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ในรูปแบบต่างๆ ได้โพสต์เรื่องราว และรูปภาพเรื่องของกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเป็นพรานป่าล่าสัตว์ โดยโพสต์เมื่อคืนที่ผ่านมาซึ่งป็นภาพของชาย ถือปืนยาว และซากสัตว์ป่าเป็นลักษณะเหมือนกับแมวดาว สัตว์ป่าคุ้มครอง เหมือนกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วยังพบว่ามีภาพซากแมวดาวที่ถูกถลกหนังขึงไม้ตากอยู่หน้าอาคารหลังเล็กแห่งหนึ่งคล้ายกับสภาพในค่ายทหาร ส่วนอีกภาพเป็นภาพของงูสิงห์ดง ที่มีความยาวกว่า 2 เมตรที่ถูกล่า โดยกลุ่ม watchdog thailand ได้โพสต์ข้อความว่า
“#ล่าถลกหนัง”#แมวดาว”#สัตว์ป่าคุ้มครองขึงพืดโชว์ส่งอวดกันในไลน์กลุ่มฝีมือทหารในค่ายแห่งหนึ่ง #แม่ริม #เชียงใหม่ WDT รับแจ้งจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม พบเจอคนยิงแมวดาว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และแมวดาวตัวนี้ ยังตั้งท้องอีกด้วย ! พร้อมรูปหลักฐาน ที่ส่งอวดกันในไลน์กลุ่มเฉพาะ เมื่อคืนวันที่ 8 กค. สถานที่ยิง บริเวณป่าในค่าย แต่จุดที่ขึงน้องตามในรูป เป็นห้องว่างในป่าแถวหลังโรงรถภายในค่าย ! ทั้งนี้ ยังมีสัตว์อีกเยอะ ที่ถูกล่าได้แล้วนำมาอวดกันทั้งงูสิงดง แมวดาว และสัตว์ป่าอีกหลายชนิด รู้ชื่อคนทำ รู้ต้นสังกัด รู้ทุกอย่างแล้ว งดด่าทหารนะครับ เพราะเป็นแค่บางคนและบางกลุ่มเท่านั้น !และแน่นอนว่าจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฏหมายอยู่แล้ว #WDTประสานกองทัพบกและผู้บังคับบัญชาค่ายทหารแห่งนี้ #พร้อมส่งหลักฐานต่อกรมอุทยานฯประสานทีม “#พญาเสือ” #ให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย ติดตามผลการสืบสวนสอบสวนการลงโทษทางวินัย และการดำเนินคดีตามกฏหมาย #พรบ.#สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าครับ ขอบคุณ”
พร้อมกับติดแฮชแทคค่ายหหารแห่งหนึ่งในอำเภอแม่ริม ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ก็พบว่ามีผู้คนในโลกออนไลน์เข้ามาแชร์ และแสดงความคิดเห็นเชิงคำหนิพฤติกรรมของคนเหล่านี้ บ้างก็สาปแช่งกับพฤติกรรมของผู้ที่ยังมีนิสัยที่ชื่นชอบการล่าสัตว์ แต่หลายคนก็ตั้งข้อสังเกต อยากให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริงและนำตัวคนผิดมาดำเนินคดี โดยเฉพาะหากผู้ล่าและเหตุเกิดในค่ายทหารจริงก็อยากให้แจงปมข้อสงสัยนี้ว่าเกิดในค่ายทหารจริงหรือไม่ ซึ่งก็ไม่อยากให้เหมารวมว่าเป็นทหารทั้งหมด แต่เป็นพฤติกรรมคนกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น